ประพุทธ กำลังเอก บุตรชาย พล.อ.อาทิตย์และคุณพรสรร กำลังเอก ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท Pro Beach Soccer อายุ 26 ปี

เปรียว

ประพุทธ กำลังเอก

บุตรชาย พล.อ.อาทิตย์และคุณพรสรร กำลังเอก ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท Pro Beach Soccer อายุ 26 ปี

ผูกพัน วัยเด็กสนิทกับคุณแม่มาก เราเหมือนปาท่องโก๋เห็นแม่ก็ต้องเห็นลูก ไปไหนไปด้วย ถึงเวลานอน เราก็นอนเตียงเดียวกัน จนกระทั่ง 8 ขวบ ผมต้องไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษแบบไม่รู้ตัว วันหนึ่งท่านชวนไปเที่ยวอังกฤษ ชี้โรงเรียนหนึ่ง ถามเสียงเศร้าว่าอยากเรียนที่นี่ไหม ผมไม่ได้สังเกตถึงความปกติที่เกิดขึ้น จึงตอบรับไป ตกใจเมื่อเข้าเรียนที่นั้นเลย สัปดาห์ต่อมาท่านมาเยี่ยม ผมแอบกลั้นน้ำตาไว้แล้ววิ่งเข้าไปห้องเรียน ท่านบอกทีหลังว่า ถ้าตอนน้นผมร้องให้ จะพากลับบ้านทันที ถ้ารู้อย่างนั้นปล่อยโฮไปแล้ว

สมัยเรียน กิตติศัพท์ลือเลื่องว่าป็นนักเรียนขาโจ๋ ได้สมญาว่าซามูไร เพราะชอบทำอะไรแหวกแนวกว่าคนอื่น เคยเล่นกีฬายกน้ำหนัก ก่อนเล่นผมจะโหมพายเรือ ว่ายน้ำหลายรอบเพื่อวอร์มร่างกายให้พร้อม เพื่อนเห็นก็ว่าบ้า ไม่มีใครกล้าตอแย
เมื่อมีรุ่นน้องคนไทยเข้ามาใหม่ มักถูกแกล้งอยู่บ่อยๆ จนเขาต้องนำชื่อผมไปอ้าง บอกใครๆว่ามาจากเมืองไทย สนิทกับประพุทธ บรรดาเพื่อนเฮี้ยวๆก็กลัวหัวหด เลิกยุ่งทันที

นิสัย ขี้เล่น วันดีคืนดีวางแผนแกล้งเพื่อน ผมเคยโยนแบงค์ 50 ปอนด์ลงน้ำ ตะโกนเรียกเพื่อนให้เก็บให้หน่อย เพื่อนถอดเสื้อผ้ากระโดดลงน้ำอย่างรวดเร็ว ว่ายไปเก็บให้ พอหยิบแบงก์ขึ้นมาเขาทำตาเหลือก ชี้หน้าด่าผมว่าหลอกลวง ชูแบงก์ 5 ปอนด์ให้ผมดู แต่ระหว่างที่เขากำลังว่ายน้ำกลับฝั่ง ผมก็วิ่งหนีไปไกลพร้อมกลับเสื้อผ้าของเขา
อีกเรื่อง ผมซื้อปัตตาเลี่ยนมาใหม่ เชิญชวนเพื่อนๆมาตัดผม เพื่อนเห็นความคล่องแคล่ว ก็เชื่อสนิดว่าเป็นช่างตัดผม มือโปร ปรากฏปัตตาเลี่ยนไถผมเพท่อนจนแหว่ง ครูเห็นแทบช็อคนึกว่าเพื่อนทำตัวซ่า เกือบถูกพักการเรียน

ความรัก สำหรับผมเป็นสีแดงแจ๊ด ถ้าเลือกได้ ผมเลือกอยู่กับคนพิเศษมากกว่าอยูกับเพื่อน ผมสามารถทุ่มเทเวลาให้เขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กลับไม่สมหวังในรัก ต่อใหทุ่มเทแค่ไหนเขาก็ไม่ค่อยเห็นคุณค่า แต่ถึงยังไงผมก็ไม่เข็ดหรอก ยังค้นหาความรักอยู่

ก็หัวใจผมยังว่างนี่ครับ

เปรียว ฉบับที่ 438 ปักษ์แรก ตุลาคม 2543

www.zdirectiry.com เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมรายชื่อและข้อมูลของธุรกิจต่างๆบนอินเตอร์เน็ตเว็บแรกของคนไทย เจ้าของเป็นชายหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ทายาทตระกูลดัง ประพุทธ์ พรประภา ลูกชายคนเดียวของคุณพรสรรค์ พรประภา

กว่าสิบปีที่ดุ๊กจากบ้านเกิดไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ วันนี้เขาหอบปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโททางด้านบริหารคอมพิวเตอร์กลับมาเมืองไทย พร้อมกลับความฝันที่เต็มเปี่ยม

“ผมจบมา 2 ปี แล้วครับ กลับมาอยู่เมืองไทยประมาณ 8 เดือน แล้ว ก่อนกลับผมไปฝึกงานกับเพื่อนทางด้านอินเตอร์เน็ต” เขาเล่าถึงตัวเองระหว่างที่ไปใช้ชีวิตที่เมืองผู้ดี ตั่งแต่อายุ 8 ขวบ ปัจจุบันเขาเป็นเรสซิเดนต์ของอังกฤษด้วย

“อังกฤษเปรือบเสมือนบ้านเราเลยถ้าเกิดให้เลือกเมืองไทยกับอังกฤษก็รักพอๆกัน อยู่ที่ไหนก็ได้”

ถึงจะรู้สึกผูกพันมากแค่ไหน แต่ดุ๊กก็เต็มใจกลับมาทำงานที่เมืองไทย นำความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาทำประโยชน์ให้กับคนไทย เขากับลูกผู้พี่ คุณกฤษณ์ รรงค์เดช เปิดบริษัท แซดไดเร็กทอรี่ ไทยแลนด์ เพื่อสร้างเว็บไซต์ธุรกิจให้คนไทย ชื่อ www.zdirectiry.com โดยเริ่มฟอร์มงานมาตั่งแต่ต้นปี 2000

บริษัท Zdirectiry (Thailand) จำกัด ด้วยวัยเพียง24 ปี เขาพุดถึงเว็บไซต์ตัวเองว่า แซดไดเร็กทอรี่ เป็นเหมือนสมุดหน้าเหลืองที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต เป็นเว็บที่รวบรวมข้อมูลทางด้านธุรกิจของบริษัทต่างๆ แบ่งป็นหมวดหมู่ให้ค้นหาได้ง่าย แบ่งเป็น 14 หมวด เช่น construction & engineering manufacturing & industry education & employment เป็นต้น คุณสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละหมวดว่ามีอะไรบ้าง อย่างเช่น คลิกหมวด  entertainment & lifestyle จะแบ่งย่อยออกไปอีกเป็น Bar Café Beauty Salons Cinemas & Theater เป็นต้น คุณอยากรู้เรื่องไหนก็คลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้จะบอกชื่อบริษัท ห้างร้านในประเภทนั้นๆทั้งหมด พร้อมชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ แผนที่ และบางบริษัทมีประวัติและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ให้ดูด้วย เพื่อง่ายกับการตัดสินใจทางด้านธุรกิจ

ถ้าเราต้องการหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ เราอาจจะเลือกสัก 10 บริษัท เราต้องพิมพ์เข้า YAHOO หรือ SANUK ปัญหาคือมันนานกว่าจะได้ข้อมูล สมมุติได้ชื่อมา 1 บริษัท เราต้องเข้าไปเรียนรู้เว็บไซต์ของเขาว่าเป็นยังไง แล้วข้อมูลที่เราอยากได้จากเว็บไซต์เขามันอยู่ตรงไหน แล้วต้องทำอย่างนั้นกับ 10 เว็บไซต์

….แซดไดเร็กทอรี่จะเป็นตัวกลางให้คุณ เราจะเอาข้อมูลของ 10 บริษัทมาไส่เป็นหนึ่งสตักเจอร์ สินค้าของบริษัทนี่มีอะไรบ้าง ใครเป็นเจ้าของบริษัท  เปิดมากี่ปี …

หน้าตาของเว็บออกแบบให้ใช้งานง่าย ทุกบริษัทจะใช้ฟอร์เมตเพราะเราต้องไปเรียนรู้ว่า ปุ่มอยู่ตรงไหนกว่าจะหาเมนูเจอ ต้องใช่เวลานาน
ความแตกต่างของแซดไดเร็กเทอรี่จากเว็บไซต์อื่นที่คุณเคย Search เข้าไปหาข้อมูลคือรายชื่อที่ขึ้นทะเบียนกับแซดฯ จะต้องป็นรูปแบบของบริษัทเท่านั้น เพราะแซดฯ ในเรื่องของธุรกิจอย่างเดียว

แล้วยังมี Event ให้คุณได้เข้าไปดูว่าในแต่ละเดือนมีงานหรือกิจการอะไรที่น่าสนใจบ้าง มี job ให้คุณได้กรอกข้อมูลสมัครงาน นอกจากรี้ยังสามารถ Link ไปเว็บไซต์อื่น อาทิ YAMAHA, Thailand express, Tao, salons be BKK เป็นต้น

ไม่เพียงทำเว็บไซต์ให้นักธุรกิจไทยได้ใช้ประโยชน์เท่านั้น ประพุทธ์ยังตั้งใจว่าจะทำให้เว็บไซต์ของเขาให้ไปถึงระดับประเทศเพื่อประโยชน์ทางด้านการส่งออกของไทย ดังนั้นจึงจักทำเป็น 2 ภาษา คือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ “ถ้าเราจะอยู่รอดในอินเตอร์เน็ต เราต้องสู้กับเมืองนอก”

ตอนนี้เขามีทีมงานทั้งหมด 12 คน และมีหุ้นส่วนซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่อังกฤษอีก 4 คน มีสมาชิก ที่มาลงทะเบียนกับแซดฯ  25000 รายแล้ว และมีคนเข้ามาใช้วันละ 5000 คน เขาบอกว่าตอนนี้เว็บไซน์กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาอยู่ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมประมาณกุมภาพันธ์ปีหน้า

นอกจากจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว แซดฯ ยังรับทำเว็บไซต์ด้วย โดยกราฟิกดีไซเนอร์จากต่างประเทศ ที่ทำไปแล้วอย่างเช่น Salons de BKK ของสมศักดิ์ ชลาชล ลองคลิกเข้าไปดูสิค่ะแล้วจะรู้ว่ามันทันสมัยมาก ไม่แพ้เว็บสวยๆของเมืองนอกเลย

เขาพูดถึงอนาคตของธุรกิจทางด้านอินเตอร์เน็ตว่า

“เราโชคดีที่เข้ามาทางด้านนี้ เพราะเป็นธุรกิจที่เราเป็นคนสร้างเอง ถ้าเผื่อเราขายรถเราต้องขึ้นอยู่กับแฟกค์เกอร์หลายอย่าง ไม่ใช่อยู่ในคอนโทรลรถเรา เรารับสินค้ามา เขาเป็นคนดีไซน์ อยู่ที่ว่าคนไทยจะชอบดีไซน์เขาหรือไม่ ถึงจะขายออก แต่อินเตอร์เน็ตเราสร้างเอง ผลิตเอง เราเปลี่ยนแปลงเองได้

…ถ้าเราเข้าไปในธุรกิจอื่น อย่างเช่นนิตยสาร เราจะต้องไปแข่งกับนิตยสารอีก 10 ราย วึ่งอาจจะไปแย่งมาร์เก็ตแชร์กันก็ได้ แต่เราเข้ามาในธุรกิจอินเตอร์เน็ต ซึ่งคู่แข่งยังไม่มากเกินไป แล้วเราก็เข้ามาง่ายขึ้น มันเป็นโอกาสที่ผมเห็นว่าเข้ามาตอนนี้ดีกว่า

ความจริงคนไทยเรามีศักยภาพสูง สามารถผลิตสินค้าได้ทัดเทียมต่างประเทศ แต่เรายังไม่มีแบรนต์เป็นของตัวเอง แต่อินเตอร์เน็ตจะพลิกโฉมโลกธุรกิจอนาคต เขาเล่าว่าคนไทยเรามัศักยภาพพอที่จะสร้างเว็บไซต์ไปสู้กับชาวต่างชาติได้แน่นอน และเว็บไซต์แซดไดเร็กเทอรี่ของเขาคงจะเป็นอีกเว็บหนึ่งที่น่าถูมิใจ เพราะสร้างโดยคนไทย

ฟังมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคิดว่าดุ๊ก น่าจะเป็นผู้ชายไซเบอร์ เพราะเป็นหนุ่มนักเรียนนอกเต็มตัว แต่ชีวิตจริงแล้วดุ๊ก บอกว่าเขาไม่ค่อยชอบชีวิตในไซเบอร์เท่าไหร่

“ถ้าไม่ใช่เรื่องงานผมไม่แตะคอมพิวเตอร์เลย” เขาเล่าพร้อมกับยิ้ม ผมจะไม่ใช่คนที่มานั่งเปิดอินเตอร์เน็ตเล่น ถ้าสนใจเรื่องอะไรก็จะเข้าไปดูเฉพาะเรื่องนั้น

เขาเป็นคนง่ายๆ ชอบอยู่บ้าน เขาเป็นคนติดบ้าน ดูทีวี ดูหนัง ตั่งแต่อยู่เมืองนอกก็จะชอบอยู่บ้าน เพื่อนๆกลุ่มเราก็ติดบ้านกัน ไม่ค่อยไปไหน เพื่อนๆขอมาที่บ้าน เพราะว่าสบายดี ไม่มีผู้ใหญ่เราจะทำอะไรก็ทำได้ ไปเที่ยวข้างนอกก็ค่าใช้จ่ายสูง แล้วอากาศที่ประเทศอังกฤษมันก็หนาว เราไม่อยากออกไปไหน..

นอกจากนี้เขายังชอบกีฬา ออกกำลังกาย กีฬาที่ชอบคือ กอล์ฟ ฟุตบอล ยกแวต

ตอนนี้ทำงานหนักขึ้น ก็หาเวลาอยากหน่อย แต่พยายามวิ่งทุกเช้า ก่อนมาทำงาน แล้วก็ว่ายน้ำ เพราะงั้นจะเครียดถาไม่ได้ออกกำลังกาย หงุดหงิด กินข้าวไม่ค่อยลง

เวลาพักผ่อนเขาชอบไปทะเล โดยเฉพาะพัทยา “ชอบกินอาหารทะเล” แล้วก็ชอบเดินทางไปต่างประเทศกับครอบครัว “ปีนี้ก็ไปเนปาลมา สนุกดีครับ หลายคนไม่ชอบอาหารแต่ผมชอบนะครับ อาหารแขก ไม่ค่อยเหม็นมาก อร่อย” (หัวเราะ)

ดุ๊กเป็นแบบอย่างของคนรุ่นใหม่ เขารักอิสระ และเป็นของตัวเอง

“ตั่งแต่อายุ 8-18 ผมเรียนโรงเรียนประจำ โดนบังคับให้ทำโน่นทำนี่ พอออกมาก็เละเลย (หัวเราะ) ไม่ต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ ไม่ต้องไปเรียน ไม่เคยเข้าห้องเรียนเลย ท่องอย่างเดียวเลยตอนสอบ ไม่ไปไหนเลย 3 เดือน

…ผมชินกับชีวิตอิสระ อย่างตอนนี้ก็ทำงานไม่เป็นเวลา บางที่ทำงานอยู่บ้านเริ่มเที่ยงคืนทำถึงเช้า 7 โมงเช้า ดีที่เขาเป็นเจ้าของบริษัทเอง ถ้ไปทำบริษัทอื่นเขาคงรับไม่ได้ (หัวเราะ)

นี่ละค่ะวิถีชีวิตของคนยุคไซเบอร์..