สัมภาษณ์ พิเศษ ประพุทธ กำลังเอก ผู้จัด “ทริปโก้ โปรบีซ ซอคเก้อร์ แบงค็อก 2001”

สยามกีฬา

สยามกีฬา ปีที่17 ฉบับที่ 5904 วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2544

สัมภาษณ์ พิเศษ ประพุทธ กำลังเอก ผู้จัด “ทริปโก้ โปรบีซ ซอคเก้อร์ แบงค็อก 2001”

“ก็องโต้” แค่จุดเริ่มต้นประดับโลกจ่อคิวอีกเพียบ

ทีมชาติไทยและทีมชาติฝรั่งเทศทั้งสองชาติมีกำหนดจะทำการฟาดแข้งกันในรายการ “ทิปโก้ โปรบีส ซอคเกอร์- แบงค็อก 2001” ในวันที่ 12 พ.ค. ที่สนามอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

เราลองมาทำความรู้จักฝ่ายการจัดการแข่งขันคือ บ.โปรบีส ซอคเก้อร์ (ประเทศไทย) จำกัด กันบ้างว่าผู้นำฟุตบอลชายหาดเข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรกคือใคร มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาด ทำไมจึงนำคันโตน่า พร้อมทีมชาติฝรั่งเทศ มาเตะกับทีมชาติไทย ต่อไปจากนั้นจะทำอะไรกับฟุตบอลชายหาดอีกทัวร์นาเมนต์ได้ผ่านไป และอีกหลายๆ คำถามที่จะล้วงลึกกัน ซึ่งคำตอบและข้อมูลของเขามีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมาย

ก่อนจะไปพบกับบทสัมภาษณ์มาทำความรู้จักกับผู้ให้สัมภาษณ์กันสักนิด บ.โปรบัส ซอคเก้อร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มี 3 หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งกันขึ้นมาคือ ประพุทธ กำลังเอก, พอล โดมินิค วัชรสินธ์, และ ฌอง อเล็กซอง ลูเซียนี่ โดยสองรายแรกเป็นคนไทย ส่วนรายหลังเป็นชาวฝรั่งเทศ แต่พวกเขาทั้งสามคนนั้นเป็นเพื่อนกันและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการแข่งขันฟุตบอลขึ้นมา

ในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ผู้ให้ข้อมูลคือ ประพุทธ กำลังเอก หรือ “ดุ๊ก” หนุ่มไฟแรงที่เข้ามาจัดงานยักษ์รายการแรกของเมืองไทย หลังเป็นหนุ่มนักเรียนนอกนานนับสิบปี ส่วนเนื้อหาสาระเป็นอย่างไรกันบ้างไปติดตามดูกัน อ้อ….สำหรับบัตรเข้าชมการแข่งขันสามารถหาซื้อได้ที่ร้านสตาร์ ซอคเก้อร์ 8 สาขาใหญ่ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า, สยามดิสคัฟเวอรี่, เซ็นทรัลลาดพร้าวเซ็นทรัลปิ่นเกล้า, ซีคอนสแควร์, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลพระราม3, แฟชั่นไอส์แลนด์

สยามกีฬา ช่วยบอกที่มาที่ไปการก่อตั่งบริษัทจัดการแข่งขันขึ้นมาหน่อยว่าเป็นอย่างไร?

ประพุทธ พวกเรา 3 คนคือผม อเล็กซอง และ คุณพอล โดมินิค ได้รวมตัวกันขึ้นมาแล้วเราได้คุยกันและมีไอเดียตรงกันเกี่ยวกับเรื่องการทำงาน โดยเราอยากทำงานกับสิ่งที่เราชอบและเรามีความรู้ เราคิดว่าเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง หลังจากที่เรียนจบก็อยากที่จะทำงานกัน สุดท้ายก็มาลงตัวที่เรื่องของกีฬา ทั้งเป็นสิ่งที่เราชอบและเรามีความรู้จึงได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อจัดการแข่งขันกีฬาขึ้นมา

สยามกีฬา แล้วสุดท้ายมาจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดได้ยังไง ?

ประพุทธ เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่ได้ตกลงใจว่าจะจัดการแข่งขันกีฬาแล้ว เราก็มานั่งวิเคราะห์กันต่อว่า เราจะทำอะไร จัดกีฬาอไรในเมืองไทยได้โดยดูว่ายุโรปมีอะไรแล้วสามารถปรับมาใช้ในเมืองไทย ซึ่งหลังจากที่ดูแล้วเห็นว่าฟุตบอลชายหาดเป็นกีฬาใหม่ซึ่งเหมาะกับคนไทยที่สุด เพราะเมืองไทยมีชายหาดที่สวยงามมากมายได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลด้วย ฉะนั้นเราจึงสามารถที่จะเล่นฟุตบอลชายหาดกันได้หลายพื้นที่ทั้งพัทยา ชลบุรี ชะอำ หัวหิน หนือลงทางภาคใต้ก็ล้วนแล้วแต่มีชายหาดทั้งนั้น โดยฟุตบอลชายหาดนั้นไม่ต้องลงทุนมาก เล่นด้วยเท้าเปล่ามีอุปดรณ์แค่ลูกฟุตบอลอย่างเดียวก็สามารถเล่นได้ คนไทยมีโอกาสจะเก่งมีโอกาสพัฒนาความสามารถไปสู่ระดับอินเตอร์ได้ เมื่อเล่นกันมากชึ้นเข้าใจกติกกันดี โดยเราจะได้เปรียบต่างประเทศพวกฝรั่งเนื่องจากบ้านเราชายหาดสามารถเล่นฟุตบอลกันได้ทั้งปี ขณะที่ต่างประเทศเขาจะเล่นกันำด้ช่วงเดียวคือหน้าร้อนช่วงอื่นจะมีปัญหาเรื่องภูมิอากาศเล่นไม่ได้ เราก็มีโอกาศที่จะเล่นได้เก่งกว่าพวกฝรั่งอีก นอกจากนั้นแล้วบ้านเราออกนอกเมืองก็มักจะเห็นเด็กๆ เล่นฟุตบอลเท้าเปล่ากัน

ซึ่งฟุตบอลชายหาดนั้นไม่จำเป็นต้องเล่นกันที่ชายหาดอย่างเดียว สามารถเล่นได้บนพื้นธรรมดาก็เหมาะที่จะเล่นในเมืองไทย สุดท้ายบ้านเราส่วนใหญ่จะมีทักษะในการเล่นตะกร้อกันมา ขณะที่พวกฝรั่งจะเล่นฟุตบอลบนพื้น โดยฟุตบอลชายหาดจะต้องใช้ทักาะการเล่นลูกกลางอากาศเยอะ เช่นการตีลังกา การเดาะบอล การวอลเลย์ ซึ่งหากเราเล่นเป็น เราก็จะยิ่งทำได้เก่งกว่าฝรั่งอีก นั้นคือเหตุผลทั้งหมดที่เราเลือกที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดขึ้นมา

สยามกีฬา แล้วมาลงเอยด้วยการจัดทีมชาติไทยปะทะทีมชาติฝรั่เทศได้อย่างไร ?

ประพุทธ พอดีเราสนิทกับผู้จัดการส่วนตัวของ เอริก คันโตน่า โดยได้เจอกันในช่วงที่มีการประชุมของสมาพันธ์ ฟุตบอลชายหาด โดยเขาก็พูดถึงงานใหม่ของคันโตน่าที่มาเล่นฟุตบอลชายหาด ขณะเดียวกันเราก็รู้จักชื่อเสียงของ คันโตน่าเป็นอย่างดี เขาเป็นนักเตะผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก นอกจากนั้นทีมฝรั่งเทศก็มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์โลกมีดาราดังอย่างโลร็องต์อีกคน ดูแล้วทีมฝรั่งเทศน่าจะดึงดูดแฟนบอลได้ เราสามารถที่เรียนรู้ศึกษาวิธีการเล่นจากทีมฝรั่งเทศได้ คุยกับผู้จัดการคันโตน่าแล้วก็สามารถที่จะจัดได้ไม่มีปัญหาโดยคันโตน่า และทีมก็มีโปรแกรมที่ต้องการจะเดินทางมาโซนนี้อยู่แล้วทุกอย่างเลยโอเค

สยามกีฬา ความน่าสนใจของฟุตบอลชายหาดในยุโรปหรือต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง

ประพุทธ ในยุโรปฟุตบอลชายหาดดังมากขนาดที่ว่ามีลีกเป็นของตัวเอง โดยชาติสมาชิกของสมาพันธ์บอลชายหาดในยุโรปมี 12 ชาติ เป็นสมาชิกประเทศอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเทศ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ตุรกี ฮอลแลนด์ ก็ล้วนมีลีกของตัวเอง ในอเมริกาใต้ พวกบราซิล อาร์เจนตินา อุรุกวัยนี่ก็มีลีกส่วนประเทศอเมริกานั้น ฟุตบอลชายหาดฮิตมากขนาดที่ว่าเขามีลีกฟุตบอลหญิงโน้นเลยที่เดียว ส่วนในเอเชียยังไม่เป็นที่รู้จักมากโดยมี ญี่ปุ่นเป็นชาติเดียวที่มีทีมฟุตบอลชายหาดจากนั้นก็มีทีมชาติไทยนี่แหละเป็นชาติที่สอง ล่าสุดนั้นฟีฟ่าได้ดึงเอา ฟุตบอลชายหาดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรค์ด้วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ต่อไปสมาพันธ์ฟุตบอลชายหาดก็จะเป็นกีฬาที่อยู่ภายใต้การดูแลของฟีฟ่า

สยามกีฬา มั่นใจแค่ไหนว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและมีความเสี่ยงแค่ไหนกับการลงทุนที่ทำไป

ประพุทธ งานนี้ก็ถือเป็นงานแรกของพวกเรา ซึ่งทุนที่ลงไปก็เป็นการลงทุนสิบๆล้านซึ่งงานทุกอย่างที่ทำก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหาทั้งนั้น บัตรที่เราจำหน่ายไปตั่งแต่แรกราก็จำหน่ายไปแล้ว 1 ใน 5 ส่วนสปอนเซอร์ต่างๆก็คุยกันแล้ว ผมก็มั่นใจว่าในการจัดเราจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อนาคตเรากะได้ทำงานอื่นๆต่อไปตามที่ได้วางไว้

สยามกีฬา โครงการในอนาคตต่อไป

ประพุทธ เรามีสัญญากบคันโตน่าไว้ว่าจะมีการเล่นในเมืองไทย 2 ครั้ง ครั้งแรกนี้เราจะจัดในกรุงเทพฯ ก่อนเพราะมีหลายคนขอมาว่า ครั้งแรกอยากให้จัดในกรุงเทพฯ แต่ในครั้งที่สองนั้นเราก็อยากจัดที่ชายหาดจริงๆ ซึ่งอาจจะจัดที่พัทยาหรือชะอำ หัวหิน ก็ได้ นอกจากนั้นแล้วเราก็มีโครงการที่จะจัดทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลชายหาดระดับชาติขึ้นมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าซึ่งเราจะเชิญทีมชาติระดับโลกอย่าง บราซิว อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเทศ สเปน มาแข่ง ราว 4-8 ทีม และคาดว่าจะเป็นที่สนใจของปแฟนๆเนื่องจากผู้เล่นที่มาก็เป็นผู้เล่นที่มีชื่อสียงรู้จักกันดี อย่างอังกฤษก็จะมีพวก จอห์น บาร์นส์, คริส ว็อดเดิ้ล,พอล ปาร์เกอร์ ลงเล่น บราซิลก็มีพวก จูนินโญ่ ฝรั่งเทศก็มี คันโตน่า,โลร็องต์ ในส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ฟุตบอลชายหาดเราก็มีอยู่ทีมสองทีมที่เป็นทีมชื่อดังจากอิตาลีและสเปน ที่ได้ทำการติดต่อกันอยู่ก็อาจจะเป็นงานต่อไปของเราในปีนี้

สยามกีฬา มาที่ทีมชาติไทยเองในฐานะคนจัด ที่ริเริ่มขึ้นมามีแผนที่จะสนับสนุนช่วยเหลือทีมชาติอย่างไรบ้าง

ประพุทธ หลังจากเสร็จจากการแข่งขันกับฝรั่งเทศแล้ว ผมก็อยากมีการเก็บตัวเตรียมทีมกันต่อเพราะเราอยากให้ทำกันต่อเนื่อง ในอนาคตเราก็จะจัดการแข่งขันอีกแน่นอน ทีมชาติไทยก็ต้องลงเล่น เราจึงอยากจะให้เตรียมเอาไว้ โดยการเล่นกับฝรั่งเทศในครั้งนี้ฟีฟ่าเขาก็จะรับรองผลและจะมีการประเมินเพื่อจะจัดอันดำโลก แต่เราต้องไปเตะกับญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบอันดับในเอเชียและวัดมาตรฐานการเล่นของเรา ซึ่งหากเราทำด้ดีทั้งสองเกมนี้ ฟีฟ่าก็จะให้โควตาทีมชาติไทยไปควอลิฟายฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลกด้วย เราก็อยากให้ทีมชาติได้ไปเวิลด์คัพ ก็อยากให้เก็บตัวกันต่ออยากการจัดให้เตะกับทีมต่างประเทศดังๆ เราก็จะจัดให้ตลอด โดยในส่วนของโค้ชของเราก็ได้คุยกับ “พี่ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน แล้วผู้จัดการทีมก็ให้ทาง คุณอดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ดูแลมีอะไรช่วยเหลือเราก็พร้อมช่วยโครงการอนาคตเราก็อาจจะส่งโค้ชคือ พี่ตุ๊กไปดุการซ้อมการเล่นของทีมดังๆในยุโรปบ้าง หรืออาจจะไปไกลถึงการนำโค้ชต่างชาติมาช่วยทีมชาติไทยก็เป็นได้

สยามกีฬา สำหรับฟุตบอลชายหาดในเมืองไทยแล้วจะไปได้สักแค่ไหน

ประพุทธ ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่าฟุตบอลชายหาดเป็นกีฬาที่คนไทยสามารถที่จะพัฒนาไปได้ไกลและมีโอกาสเก่งถึงระดับโลก เพราะเรามีปัจจัยเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศ สภาพแวดล้อมและลักษณะธรรมชาติของคนเอื้ออำนวยให้ แต่เราก็มีโครงการที่จะมาพัฒนาด้วย โดยกำไรหรือรายได้จากการจัดแข่งขันส่วนหนึ่งหลังจากนี้เราก็เตรียมที่จะซื้อลูกฟุตบอลชายหาดไปแจกที่โรงเรียนต่างๆในชนบท นอกจากนั้นก็จะซื้อทรายไปให้ด้วย เพื่อที่เด็กๆจะได้เล่นกัน เราจะทยอยๆไปเรื่อยๆทั่วประเทศ ส่วนทรายที่จะใช้จัดการแข่งขัน รายการ ทิปโก้ โปรบีช ครั้งนี้เราก็จะยกให้กับสมาคมฯเอาไว้ซ้อมให้ทีมชาติหรือเอาไว้แข่งขันในรายการของสมาคมฟุตบอลฯต่อไป โดยจะลองติดต่อหาสนามหรือพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะเอาทรายไปลงได้ โครงการอื่นๆในปีนี้เราก็เตรียมที่จะไปจัดการแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ ที่เป็นจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆทั่งประเทศอย่าง เชียงใหม่ สงขลา ชลบุรี เพื่อเป็นการค้นหาดาวรุ่งนักเตะหน้าใหม่มาเสริมทีมชาติในอนาคต

และนั้นก็คือคำตอบของฝ่ายการจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดรายการ “ทิปโก้ โปรบีช ซอคเก้อร์ แบงค็อก 2001” ซึ่งก็มีข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมาให้ทราบกันวึ่งหลังจากที่ได้อ่านแล้วหลายคนก็คงคิดเหมือนๆกันว่าเขามีความเอาจริงเอาจัง ที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลชายหาดนี้ ไม่ใช่แค่จะจัดเอาผลกำไรเป็นครั้งคราวแล้วผ่านไป อย่างน้อยเขาก็ได้ช่วยสร้างสรรค์สังคมของไทยเป็นการตอบแทนอย่างน่าชื่นชมที่เดียว ซึ่งหากว่ากีฬานี้จะบูมในเมืองไทยในอนาคต ทีมชาติไทยมีโอกาสสร้างชื่อเสียงสู่ระดับโลก เด็กไทยได้ออกกำลังกายอย่างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพพละทิ้งยาเสพย์ติด นั่นก็คงป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งของพวกเขา.